Friday, February 19, 2016

Blogger : 20 การเพิ่ม Code วันเวลา ปฎิทิน ประดับบล็อก (2)

0 ความคิดเห็น
 
 หลังจากนำ Code Script เพื่อเพิ่ม วัน เวลา และปฎิทิน มาให้ได้แต่งเติมไปแล้ว ใน http://mediathailand-howto.blogspot.com/2016/02/blogger-code.html ซึ่งจะเป็น Code script แบบ HTML5 ล้วนๆ เพราะแบบ Flash อาจจะไม่สามารถ แสดงข้อมูล ออกมาหรือ ไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะ Smartphone Android OS ได้ ในบทเรียนนี้ จึงแนะนำการใช้ภาษา code ที่เป็น HTML 5  มาใช้แทน ซึ่งเป็น code สำเร็จรูปเรียบง่าย แต่ ดูดี ก่อนอื่นหากท่านที่ยังไม่รู้วิธีทำ ก็ขอทบทวนการติดตั้งกันอีกที ดังนี้

การสร้างงานต้องทำผ่าน แดชบอร์ด ตรงส่วน Layout หรือ รูปแบบ ซึ่งมีอยู่ใน Blogger เอง โดยมีวิธีการ ดำเนินการ ดังนี้

1.เปิด แดชบอร์ด ไปที่ Setting หรือส่วนการตั้งค่า

2.เลือกรายการ Layout หรือ รูปแบบ ที่ฝั่งซ้าย ดังภาพด้านล่าง เมื่อได้ Layout Page มาแล้ว ให้กำหนดตำแหน่งที่ท่านจะวาง ส่วนที่ใช้วาง code script

3. เมื่อกำหนดบริเวณได้แล้ว ให้คลิกเลือกรายการ Add a Gadget หรือ เพิ่ม Gadget ที่อยู่ในบริเวณนั้น ซึ่งจะเกิดหน้าต่าง Add a Gadget  เลือกหารายการ ที่ชื่อว่า HTML/Java Script  คลิกเลือกที่เครื่องหมาย +

 
4. จะเกิดกรอบหน้าต่างสำหรับวาง code script ดังภาพ
5. ทำการตั้งชื่อ และนำ code ที่ต้องการวางลงในพื้นที่เขียน script
 
6. คลิกปุ่ม บันทึก แล้วปิดหน้าต่างได้
 
7. ตรงตำแหน่งที่กำหนดไว้ ก็จะมีนาฬิการ หรือ ปฎิทิน แสดงผล ตามที่กำหนดไว้
 
 
 
หมายเหตุ :  หากต้องการแสดงผล ให้อยู่ตรงกลาง ให้เพิ่ม คำสั่ง Tag Center ลงไป
 

<center> ................ส่วนที่เป็น code script..................... </center>

 
 ดูชุดหนึ่ง ที่ http://mediathailand-howto.blogspot.com/2016/02/blogger-code.html
ต่อไปนี้เรามาดูรูปแบบพร้อม Code คำสั่งในแต่ละแบบกัน เป็นชุดที่ 2
 
 


code ที่ใช้
<iframe style="overflow:hidden;border:0;margin:0;padding:0;width:170px;height:50px;"src="http://www.clocktag.com/html5/dt161.html"></iframe>

.................................................................
 


code ที่ใช้
<iframe style="overflow:hidden;border:0;margin:0;padding:0;width:170px;height:50px;" src="http://www.clocktag.com/html5/dt162.html"></iframe>

.................................................................


code ที่ใช้
<iframe style="overflow:hidden;border:0;margin:0;padding:0;width:170px;height:50px;" src="http://www.clocktag.com/html5/dt163.html"></iframe>

.................................................................



code ที่ใช้
<iframe style="overflow:hidden;border:0;margin:0;padding:0;width:190px;height:50px;" src="http://www.clocktag.com/html5/dt172.html"></iframe>

.................................................................




code ที่ใช้
<iframe style="overflow:hidden;border:0;margin:0;padding:0;width:190px;height:50px;" src="http://www.clocktag.com/html5/dt173.html"></iframe>

.................................................................



code ที่ใช้
<iframe style="overflow:hidden;border:0;margin:0;padding:0;width:100px;height:100px;" src="http://www.clocktag.com/html5/m192.html"></iframe>

.................................................................



code ที่ใช้
<iframe style="overflow:hidden;border:0;margin:0;padding:0;width:100px;height:100px;" src="http://www.clocktag.com/html5/m193.html"></iframe>

.................................................................




code ที่ใช้
<iframe style="overflow:hidden;border:0;margin:0;padding:0;width:100px;height:100px;" src="http://www.clocktag.com/html5/m196.html"></iframe>

.................................................................




code ที่ใช้
<iframe style="overflow:hidden;border:0;margin:0;padding:0;width:120px;height:120px;" src="http://www.clocktag.com/html5/t21.html"></iframe>

.................................................................



code ที่ใช้
<iframe style="overflow:hidden;border:0;margin:0;padding:0;width:120px;height:120px;" src="http://www.clocktag.com/html5/t22.html"></iframe>

.................................................................



code ที่ใช้
<iframe style="overflow:hidden;border:0;margin:0;padding:0;width:120px;height:120px;" src="http://www.clocktag.com/html5/t23.html"></iframe>

.................................................................



code ที่ใช้
<iframe style="overflow:hidden;border:0;margin:0;padding:0;width:120px;height:120px;" src="http://www.clocktag.com/html5/t12.html"></iframe>

.................................................................
 

code ที่ใช้
<iframe style="overflow:hidden;border:0;margin:0;padding:0;width:120px;height:120px;" src="http://www.clocktag.com/html5/t13.html"></iframe>

.................................................................



code ที่ใช้
<iframe style="overflow:hidden;border:0;margin:0;padding:0;width:120px;height:120px;" src="http://www.clocktag.com/html5/t11.html"></iframe>


.................................................................
ข้อควรระวัง
อย่านำ code นี้ ไปใช้ในหลายที่นัก เพราะ อาจจะทำให้การแสดงผล ช้าลง
Readmore...
Wednesday, February 17, 2016

Blogger : 19 การเพิ่ม Code วันเวลา ปฎิทิน ประดับบล็อก (1)

2 ความคิดเห็น
 
วันนี้ นำเทคนิคพิเศษหนึ่งมาใช้ประดับให้บล็อกดูมีสีสันและมีเสน่ห์ นั้นคือการเพิ่มนาฬิกา และปฎิทิน ที่จริงแล้วมีสคริปคำสั่งที่แสดงผลได้ ทั้งแบบ HTML5 และ แบบ Flash แต่เนื่องจากในบาง Device สคริปที่มาจาก Flash อาจไม่สามารถแสดงข้อมูลโดยเฉพาะ Smartphone Android OS ได้ ในบทเรียนนี้ จึงแนะนำการใช้ภาษา code ที่เป็น HTML 5  มาใช้แทน ซึ่งเป็น code สำเร็จรูปเรียบง่าย แต่ ดูดี (เนื่องจากการนำ code script มาแสดงผลเป็นจำนวนมาก อาจส่งผลให้การแสดงผลบนบล็อกช้าลงจึงขอแบ่งออกเป็น 2 ชุด)

การสร้างงานต้องทำผ่าน แดชบอร์ด ตรงส่วน Layout หรือ รูปแบบ ซึ่งมีอยู่ใน Blogger เอง โดยมีวิธีการ ดำเนินการ ดังนี้

1.เปิด แดชบอร์ด ไปที่ Setting หรือส่วนการตั้งค่า

2.เลือกรายการ Layout หรือ รูปแบบ ที่ฝั่งซ้าย ดังภาพด้านล่าง เมื่อได้ Layout Page มาแล้ว ให้กำหนดตำแหน่งที่ท่านจะวาง ส่วนที่ใช้วาง code script


3. เมื่อกำหนดบริเวณได้แล้ว ให้คลิกเลือกรายการ Add a Gadget หรือ เพิ่ม Gadget ที่อยู่ในบริเวณนั้น ซึ่งจะเกิดหน้าต่าง Add a Gadget  เลือกหารายการ ที่ชื่อว่า HTML/Java Script  คลิกเลือกที่เครื่องหมาย +


 
4. จะเกิดกรอบหน้าต่างสำหรับวาง code script ดังภาพ

5. ทำการตั้งชื่อ และนำ code ที่ต้องการวางลงในพื้นที่เขียน script
 
6. คลิกปุ่ม บันทึก แล้วปิดหน้าต่างได้
 
7. ตรงตำแหน่งที่กำหนดไว้ ก็จะมีนาฬิการ หรือ ปฎิทิน แสดงผล ตามที่กำหนดไว้
 
 
 
หมายเหตุ :  หากต้องการแสดงผล ให้อยู่ตรงกลาง ให้เพิ่ม คำสั่ง Tag Center ลงไป
 

<center> ................ส่วนที่เป็น code script..................... </center>

 
 
ต่อไปนี้เรามาดูรูปแบบพร้อม Code คำสั่งในแต่ละแบบกัน
 
 



code ที่ใช้
<iframe style="overflow:hidden;border:0;margin:0;padding:0;width:175px;height:80px;"src="http://www.clocktag.com/html5/d171red1.html"></iframe>

.................................................................
 



code ที่ใช้
<iframe style="overflow:hidden;border:0;margin:0;padding:0;width:175px;height:80px;" src="http://www.clocktag.com/html5/d171black1.html"></iframe>

.................................................................



 
 
code ที่ใช้
<iframe style="overflow:hidden;border:0;margin:0;padding:0;width:175px;height:80px;" src="http://www.clocktag.com/html5/d171blue1.html"></iframe>

.................................................................
 
 

 
code ที่ใช้
<iframe style="overflow:hidden;border:0;margin:0;padding:0;width:270px;height:25px;" src="http://www.clocktag.com/html5/dt41.html"></iframe>

.................................................................


code ที่ใช้
<iframe style="overflow:hidden;border:0;margin:0;padding:0;width:130px;height:100px;" src="http://www.clocktag.com/html5/dt151.html"></iframe>

.................................................................
 
 

code ที่ใช้
<iframe style="overflow:hidden;border:0;margin:0;padding:0;width:130px;height:100px;" src="http://www.clocktag.com/html5/dt152.html"></iframe>

.................................................................



code ที่ใช้
<iframe style="overflow:hidden;border:0;margin:0;padding:0;width:165px;height:130px;" src="http://www.clocktag.com/html5/dt231.html"></iframe>

.................................................................
 


code ที่ใช้
<iframe style="overflow:hidden;border:0;margin:0;padding:0;width:165px;height:130px;" src="http://www.clocktag.com/html5/dt232.html"></iframe>

.................................................................
 
 

code ที่ใช้
<iframe style="overflow:hidden;border:0;margin:0;padding:0;width:165px;height:130px;" src="http://www.clocktag.com/html5/dt233.html"></iframe>

ดู  Code Script ชุด 2  ที่  http://mediathailand-howto.blogspot.com/2016/02/blogger-20-code-2.html
Readmore...

เตือนภัยผู้ใช้เมล์กลุ่ม Outlook และ Hotmail ภาค 2

0 ความคิดเห็น
 
เมื่อเดือนตุลาคม 2558 ปีที่แล้ว ได้เคยเตือนผู้ใช้เมล์กลุ่ม outlook รวมถึง hotmail ว่ามีภัยจากการหลอกลวงด้านความปลอดภัย ไปแล้วครั้งหนึ่ง หาอ่านได้ที่ http://mediath3.blogspot.com/2015/10/outlook-hotmail.html

 

และนี่เป็นอีกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์นี้  โดยเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ได้รับอีเมล์มาอีกฉบับ ใจความตามที่ปรากฏด้านล่าง
 
 



หากแปลเป็นภาษาไทยก็ พอจะสรุปได้ว่า

ข้อมูลของเราแสดงให้เห็นว่าคุณเพิ่งขอยุติการใช้บัญชีของคุณ โดยทางเรากำลังจะดำเนินการตามคำร้องขอของคุณในไม่ช้า ข้อมูลบัญชีอีเมล์ของคุณจะสูญทั้งหมด ถ้าคุณไม่ทราบหรือไม่มีความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนร้องขอ และต้องการที่จะยกเลิกคำขอดังกล่าว โดยคลิกที่ ปุ่มยกเลิกคำร้องขอ

และที่ปุ่ม Cancel Request  ซึ่งเป็นปุ่มที่แจ้งให้ดำเนินการยกเลิกคำขอดังคำกล่าวอ้าง กลับไม่ใช่มาจาก Hotmail โดยตรง แต่เป็นเว็บไซต์หนึ่งที่สังกัดประเทศลิเบีย ย้ำนะครับว่า ลิเบีย แปลกไหมละครับ ไงก็อย่าหลงเชื่อเด็ดขาด โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ Smartphone และ Tablet เพราะอุปกรณ์ทั้งสอง ไม่สะดวกในการตรวจสอบย้อนทวนได้คล่องตัวนัก แถมท้ายอีกหนึ่งกรณี


 
เจอข้อความแบบนี้ก็ไม่ต้องสนใจนะครับ ละทิ้งหรือบล็อกไปเลย
 

....................................................  ยังไม่จบ ..............................................

 
เพิ่มเติม เมื่อ เมษายน 2559 ก็มีมาอีกราย จะส่งเมล์มาเพื่อให้เราร่วมธุรกรรม ทางธนาคาร ในลักษณะเชื่อมต่อบัญชีระหว่างประเทศ แต่ ให้ทราบว่า นั่นคือแก๊งค์การเงินข้ามชาติ ที่พบเจอนั้นมาจากรัสเซียเลยแหระ
 
 จุดที่พิสูจน์คือโดเมนของอีเมล์ คือ  @yandex.com มีต้นตอที่รัสเซีย อีกจุดนึง  คือ @execs.com ตัวนี้ร้ายสุด  ที่ถูกขึ้นบัญชีดำว่าเป็นพวก Scammer ตัวจริงเลย
 

และนี่ก็เป็นอีกภัยร้ายของคนที่ใช้อีเมล์ซึ่งต้องควรระวัง


Readmore...
Monday, February 8, 2016

ตัดไฟล์เสียงแบบออนไลน์

0 ความคิดเห็น
 
   บางครั้งไฟล์เสียงที่เรามีนั้นก็ยาวเกินกว่า จะเอามาใช้งานต่างๆ ได้ โดยเฉพาะงานนำเสนอ แม้ว่า PowerPoint จะมีเทคนิคการเลือกช่วงเสียงเพลงได้ก็ตาม แต่ก็ไม่สะดวกอีกทั้งยังยุ่งยากและอาจผิดพลาดได้ วันนี้ mediathailand : presentation  จะมาแนะนำวิธีการตัดไฟล์เสียงแบบออนไลน์กัน โดยมีเว็บไซตืผู้ให้บริการนี้ เรามาศึกษาวิธีการกัน

1. ไปที่เว็บไซต์ https://mp3cut.net/th/


2. จะปรากฎหน้าให้ท่านดำเนินการ มี 3 ขั้นตอนคือ Open  Cut  และ Save เริ่มที่ขั้นแรก คลิกที่ปุ่ม Open file  ดังภาพบน



3. เลือกไฟล์เสียงต้นทางที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่าน เลือกแล้ว คลิก Open




4. ไฟล์เสียงที่ท่านเลือกจะถูก Upload ไปบนระบบ ซึ่งขณะนี้ สถานะโปรแกรมพร้อมที่จะดำเนินการในขั้นตอนที่ สอง คือ Cut






โดยท่านสามารถเลือกช่วงที่ต้องการตัดออกได้ โดยใช้ปุ่ม play/stop รวมถึงสไลด์บาร์สีฟ้าเข้ม ซึ่งจะมีสองด้านทั้งด้านต้นทางและด้านปลายทาง สำหรับกำหนดช่วงให้ท่านดำเนินการตัด


5. เมื่อดำเนินการเลือกช่วงที่ต้องการแล้ว คลิกที่ปุ่ม Cut

ส่วนสีฟ้า คือ ส่วนที่เลือก 
ส่วนสีขาว คือส่วนที่ตัดออก
 ตรงส่วนนี้ ท่านสามารถกำหนดการ Fade in และ Fade out ได้ จากปุ่มสวิทช์ ด้านบน


6. ระบบจะดำเนินการตัดช่วงของไฟล์ที่ท่านกำหนดไว้ หากไฟล์นั้นมีความยาว ก็ อาจจะต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน


7. เมื่อเสร็จเรียบร้อย ระบบจะให้ท่านทำการ Download ท่านก็คลิกที่ Download ทำการ save ชื่อ ตามที่ต้องการต่อไป

Readmore...

การแปลงไฟล์วิดีทัศน์จาก YouTube ให้เป็นไฟล์เสียง MP3

0 ความคิดเห็น
 
ในบางสถานการณ์ของคนทำสื่อโดยเฉพาะสื่อนำเสนอ ก็มีความต้องการอยากได้มัลติมีเดียไม่ว่า วิดีทัศน์ หรือ เสียง มาประกอบแหล่งที่สำคัญก็คือใน youtube ซึ่งในเรื่องไฟล์วิดีทัศน์เคยนำเสนอไปแล้วที่ http://mediath3.blogspot.com/2016/02/youtube.html วันนี้จะมานำเสนอ ในอีกเรื่อง นั่นคือการแปลงไฟล์เสียงจาก YouTube ให้เป็นไฟล์ MP3 ซึ่งที่จริงก็ มีหลายเว็บที่ให้บริการ  แต่ส่วนใหญ่ จะจำกัดที่ความยาวของไฟล์เสียงไม่เกิน 20 นาที


แต่ในวันนี้จะนำเสนอเว็บที่ให้บริการแบบไม่จำกัดความยาวของไฟล์ ซึ่งจะสะดวก ในการดำเนินการด้วย มาดูขั้นตอนกัน โดยจะแนะนำให้เรียนรู้กัน 3 เว็บไซต์

เว็บแรก

1. ไปที่ http://www.flv2mp3.com/ จะพบหน้าเว็บที่พร้อมให้ดำเนินการดังภาพด้านล่าง


2. ทำการ copy URL จากYouTube ที่ท่านเลือก มาวางในพื้นที่ สีขาว


3. ซึ่งเมื่อวางเสร็จปุ่ม CONVERT to MP3 จะเปลี่ยนจากสีแดง เป็นสีเขียว ท่านก็คลิกปุ่มได้เลย


4. ระบบจะดำเนินการแปลงไฟล์ ดังภาพ




5. เมื่อระบบดำเนินการเสร็จ จะเกิดแถบสีเขียว แจ้งว่า VIDEO SUCCESSFULLY CONVERTED TO MP3 พร้อมปุ่ม DOWNLOAD สีแดง  ให้ทำการคลิกปุ่ม DOWNLOAD สีแดง


6. จะให้ท่านทำการ Save จะเลือก Save หรือ Save as ก็แล้วแต่ โดยท่านอาจจะตั้งชื่อตามใจท่านได้เลย ก็เป็นอันว่า จบกระบวนการ


แต่ถ้าต้องการทำการดาวน์โหลดเพิ่มก็คลิกที่ปุ่ม DOWNLOAD ANOTHER VIDEO


..........................................................................................................
เว็บที่สอง

 มาดูอีกเว็บไซต์ ซึ่งก็ ง่าย และค่อนข้างรวดเร็วกว่า ชื่อเว็บ TheYouMp3  ไปที่ http://m.theyoump3.com/thai/


ให้ทำการ copy URL ที่ต้องการจาก YouTube ลงในช่อง ดังภาพ หลังจากนั้นคลิกที่ปุ่ม Convert เพื่อทำการแปลงไฟล์ เมื่อดำเนินการเสร็จ ระบบจะแจ้งให้ทราบทันทีดังภาพด้านล่าง


ทำการคลิกที่ปุ่ม Download เพื่อนำลงมา ซึ่งก็ดำเนินการ save เหมือนที่เคยทำ เป็นเสร็จกระบวนการ

 
 
................................................................................
 
 
 
เว็บสุดท้าย
 
ก็เป็นเว็บที่ใช้งานง่ายอีกไซต์นึง  มีวิธีการดังนี้
 
1. ไปที่ http://convert2mp3.net/ จะพบหน้าเว็บที่พร้อมให้ดำเนินการดังภาพด้านล่าง
 

 
 
2. ทำการ copy URL จากYouTube ที่ท่านเลือก มาวางในช่องตามที่ลูกศรชี้

 
 
 
 
3. ซึ่งเมื่อวางเสร็จคลิกที่ปุ่มปุ่ม CONVERT ระบบจะดำเนินการโดยแสดงเป็นแถบ progress bar เพื่อดำเนินการดาวน์โหลด 

 
 
 
 
4. เมื่อระบบทำการดาวน์โหลดเสร็จ ก็จะรายงานผล ให้ท่านคลิกปุ่ม Continue

 



 
5. ระบบจะดำเนินการแปลงไฟล์ ดังภาพ เมื่อดำเนินการเสร็จ ก็จะแจ้งผลด้วยแถบสีเขียว ให้ทำการคลิกปุ่ม DOWNLOAD สีเขียว ได้เลย
 

 
 
 
6. จะให้ท่านทำการ Save จะเลือก Save หรือ Save as ก็แล้วแต่ โดยท่านอาจจะตั้งชื่อตามใจท่านได้เลย ก็เป็นอันว่า จบกระบวนการ

 
 
 
......................................................................................
Readmore...
Saturday, February 6, 2016

เตือนภัยหลอกลวงจาก GOOGLE

0 ความคิดเห็น
 
เมื่อเดือนตุลาคม 2558 ได้เคยเตือนผู้ใช้เมล์กลุ่ม outlook รวมถึง hotmail ว่ามีภัยจากการหลอกลวงด้านความปลอดภัย







 และทาง GMAIL ก็ มีเหมือนกัน แต่ อยู่ในรูปของการหลอกลวง ว่าผู้ใช้เมล์ได้รับการคัดเลือก หรือเป็นผู้ชนะจากการสุ่ม ได้รับเงินรางวัลก้อนโต  โดยเนื้อหาใจความที่ links อ้างอิงที่ http://lottolore.com/ontario49.html เป็นสำนักงาน BOL GMAIL อยู่ที่ประเทศแคนาดา

เดือนกุมภาพันธ์02559 ก็ มีมาอีกหนึ่งรูปแบบ นั้นคือ แจ้งว่าระบบเมล์มีจดหมายอยู่ในระบบเมล์ มากเกินไป  ซึ่งก็ดูเหมือนไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่แท้จริงแล้วมันแอบแฝงภัยร้าย โดยจะเป็นการฝัง script เมื่อผู้ใช้ทำการคลิก ท่านอาจจะสูญเสียข้อมูลต่างๆของท่านที่มีอยู่ในระบบเมล์ จนถึงภายใน Device ทุกอย่างที่ท่านเชื่อมต่อและใช้งาน



สังเกตได้อย่างไร ในคำว่า To many messages in your mailbox ซึ่งใน links ที่ให้เข้าไปดำเนินการนั้นแทนที่จะเป็นของ GOOGLE กับเป็นของ Hampton Consulting Group, Inc. แทน


 

 

เพิ่มเติม

วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2559 ก็มาแบบเดียวกับกรณีที่ผ่านมา คือ GOOGLE (ปลอม) แจ้งถึง ว่าระบบพบจดหมายที่หลุดจาก inbox แจ้งว่าหากต้องการ recovery นำจดหมายกลับมา ก็ให้คลิก หากในแวดวงธุรกิจ อาจจะดูเหมือนมีความสำคัญ แต่ สำหรับผม ถือว่า ไม่สำคัญและใช้เป็นกรณีศึกษา ให้สังเกต





(1) User Support กลับไม่ใช้ Gmail ของ Google แต่เป็นของ tunap.de ประเทศเดนมาร์ก

(2) ลิงค์ที่แจ้งให้ฌรา)ผู้ใช้ทำการคลิกเข้าไปเพื่อทำการกู้คืนจดหมาย ไม่ใช่จาก sever GOOGLE แต่เป็น ของ ahshuixin.com ที่มีโดเมนอยู่ที่ (Chengdu, Sichuan) เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน
 

ไง ผู้ใช้เมล์ ก็ ควรระมัดระวังไว้ โดยการ ตรวจก่อนคลิก นะครับ

Readmore...
Thursday, February 4, 2016

การดาวน์โหลดไฟล์จาก YouTube

0 ความคิดเห็น
 


ในฐานะคนทำสื่อเพื่อการนำเสนอ การนำมัลติมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นวิดีทัศน์ เสียง หรือภาพเคลื่อนไหวประเภทต่างๆมาสนับสนุนการนำเสนอ จะช่วยให้การนำเสนอมีความน่าสนใจ แหล่งไฟล์ข้อมูลวิดีทัศน์ที่สำคัญและถือเป็นแหล่งใหญ่ที่สุดบนอินเทอร์เน็ตก็คือ YouTube นั่นเอง แต่การจะนำไฟล์วิดีทัศน์ลงมาใช้งานในลักษณะออฟไลน์นั้น ซึ่งหมายถึงการดาวน์โหลด แต่หน้าเว็บของ YouTube เองก็ไม่ได้อนุญาตให้ท่านดำเนินการได้ ที่จริงนักคอมพิวเตอร์ที่ชำนาญสามารถหาวิธีดาวน์โหลดไฟ์วิดีทัศน์จาก YouTube ไม่ยากนัก โดยมีทั้งการติดตั้งโปรแกรมเฉพาะ สำหรับการดาวน์โหลด ซึ่งมีหลากหลาย และบางโปรแกรม มักจะแถมโปรแกรมแอบแฝงที่เราไม่ต้องการมาด้วย แต่ในวันนี้จะแนะนำวิธีการดาวน์โหลดจากหน้าเว็บผู้ให้บริการดาวน์โหลดจาฟ KEEPVID กัน
โดยมีวิธีการ ดังนี้


1.ทำการเปิด Browser เว็บ: www.keepvid.com   ดังภาพบน

 

2.ทำการเปิด Browser อีกหน้าต่างไปที่เว็บ YouTube เลือกรายการวิดีทัศน์ที่ท่านต้องการจะดาวน์โหลด

3.ทำการ copy URL ที่ปรากฎตรงช่อง Address Bar ดังภาพด้านบน


4. กลับไปที่เว็บ www.keepvid.com ทำการ  paste URL ลงในช่องลิงค์ ดังภาพ


5.คลิกที่ปุ่ม Download



6.จะปรากฎรายการประเภทของไฟล์ รวมถึงขนาด หรือ ระดับคุณภาพให้ท่านเลือกดาวน์โหลด
7. ทำการคลิกขวา เลือกรายการ Save Target as (หากคลิกเลือกตรงๆจะปรากฎหน้าต่างเช่นนี้ซึ่งไม่สามารถทำการดาวน์โหลดได้)


8. ระบบจะดำเนินการดาวน์โหลด ตามที่ท่านเลือก อย่าลืมต้องจำด้วยว่า ไฟล์ที่ดาวน์โหลด ปลายทางลงที่ใดด้วยนะ



Readmore...

แบบสอบถามความคิดเห็น


สาระ เนื้อหา เรื่องราว ที่ปรากฎอยู่ในบล็อกแห่งนี้ จัดทำขึ้นเพื่อรวบรวมผลงาน แนวคิด จากการศึกษาเรียนรู้ และประสบการณ์ในการทำงาน รวมถึงการนำมาจากแหล่งข้อมูลอื่น(ซึ่งจะแจ้ง links ต้นทาง) นำมาเผยแพร่ให้กับท่านที่สนใจ ผ่านช่องทางและเวทีบล็อกแห่งนี้ หากท่านต้องการที่จะแนะนำ หรือแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ในการจัดทำบล็อกความรู้นี้ ติดต่อพูดคุย(ฝากข้อความ) ได้นะครับ
ขอบคุณที่กรุณาเข้าเยี่ยมชม

นายมีเดีย : mediathailand
สุวัฒน์ ธรรมสุนทร (mediath@hotmail.com)
ข้าราชการบำนาญ สำนักงาน กศน.
กระทรวงศึกษาธิการ

ความเห็นจากเพื่อน Facebook